เจ้าหนอนเมือกสีเขียวนี่มันคือตัวอะไรกันนะ

บ่อยครั้งที่ทะเลจะเซอร์ไพรส์มนุษย์เราด้วยการส่งตัวประหลาดขึ้นมาบนบก ทั้งจับได้บ้าง และขึ้นมาเองบ้าง และล่าสุดเจ้าหนอนเมือกเขียวนี้ถูกพบที่ไต้หวัน มีคนถ่ายวิดีโอไว้และอัพโหลดในชื่อ Wei Cheng Jian สร้างความสยดสยอง สยิว น่ายี้ น่าขนลุกแก่ชาวเน็ตจำนวนมาก เรามาทำความรู้จักกับมันดีกว่า

Jon Norenburg นักวิทยาศาสตร์สัตววิทยา เขาอธิบายว่า สัตว์ประเภทนี้ไม่มีอันตรายใดๆ หนอนดังกล่าวเป็นสัตว์จำพวก Nemertean หรือพวกหนอนริบบิ้น มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Lineus fuscoviridis สามารถพบได้ตั้งแต่ทะเลแถบญี่ปุ่นจนถึงฟิลิปปินส์ และยังพบได้ทั่วไปตามชายฝั่งทะเลเขตร้อนอีกด้วย เขาบอกว่า “สัตว์ที่เห็นในวิดีโอนั่น เป็นไปได้ว่ามันอาจจะคลานออกมาจากบางอย่างที่ถูกนำขึ้นมาจากทะเล” อย่างเช่น หินที่มีรูพรุน สาหร่ายที่เป็นก้อนๆ หรือแม้กระทั่งยางรถที่ถูกทิ้งลงทะเล

 John McDermott ได้อธิบายว่า “สัตว์กลุ่ม Lineus เป็นที่รู้จักกันในวงการว่ามันมีขนาดใหญ่พอสมควร และหนอนประเภทนี้อาจมีความยาวได้ถึง 2 เมตรเลยทีเดียว”

หนอนชนิดนี้มีมากกว่า 1,100 ชนิด และเป็นกลุ่มที่ชนิดของหนอนมากที่สุดในโลกอีกด้วย แต่หนอนกลุ่ม Lineus ก็ไม่ได้อาศัยอยู่ในทะเลเสียทั้งหมด

แล้วอะไรคือเส้นสีชมพูที่ออกมาจากตัวมัน? อวัยวะสีชมพูที่เห็นนั่นคืองวงของมันนั่นเอง เป็นหนึ่งในอวัยวะที่ใช้จำแนกชนิดของหนอนกลุ่มนี้

พวกมันใช้อวัยวะที่คล้ายลิ้นนี้ในการจับเหยื่อ และยังมีหนอนอีกหลายประเภทที่จับเหยื่อโดยวิธีนี้ งวงของมันนั้นทั้งหนึบและเหนียว มันจะยื่นงวงออกไปพันรอบตัวเหยื่อ เช่นพวกหอยและปลิงทะเล เหยื่อของมันจะติดหนึบกับงวงและจะถูกกลืนเข้าไป

“และในบางครั้งมันสามารถกลืนปลิงทะเลที่ตัวใหญ่กว่ามัน 3 ถึง 4 เท่าเลยล่ะ นี่มันยิ่งกว่างูเหลือมเสียอีก” Norenburg กล่าว
. . .

บั้นปลายชีวิต

หนอนที่เห็นในวิดีโอนั้น มันอาจจะกำลังพยายามใช้งวงของมันตามหาแหล่งน้ำ หลังจากที่มันรู้ตัวว่าไม่ได้อยู่ในทะเล ซึ่งดูท่าทางแล้วไม่น่าจะรอด

“พวกมันอยู่ได้ไม่นานหากไม่ได้อยู่ในทะเล มันเคลื่อนที่ได้ด้วยเมือกเหนียวๆ ของมัน แต่เมือกนั้นก็ต้องการน้ำทะเลในการหล่อเลี้ยงตลอดเวลา และเมือกเจ้าหนอนในวิดีโอนั่นมันกำลังแห้งไปเรื่อยๆ คล้ายกับเราอ้าปากนานๆ จนน้ำลายแห้ง ท้ายที่สุดมันจะไปไหนไม่ได้และแห้งตายติดอยู่กับหินแถวนั้น” Norenburg อธิบายเพิ่มเติม

….

ท้องทะเลสร้างความตื่นเต้นให้เราได้ทุกเวลา แล้วมาลุ้นกันว่าต่อไปจะเป็นตัวอะไรอีก

อ้างอิง :
– National Geographic, What’s the Giant, Slimy Worm That Horrified the Internet?

ทีมนักวิจัยได้สร้างขาหน้าของหนูขึ้นในห้องแลป

นับว่าเป็นก้าวสำคัญของวงการชีววิศวกรรมในเรื่องของการปลูกถ่ายอวัยวะ เมื่อทีมนักวิจัยได้สร้างเนื้อเยื่อขาหน้าของหนูขึ้นมาในห้องแลป ระบบหลอดเลือดและกล้ามเนื้อต่างๆ ทำงานได้สมบูรณ์ หลังจากพวกเขาปลูกถ่ายอวัยวะดังกล่าวไปยังหนูทดลอง พบว่าหลอดเลือดทำงานได้ตามปกติ มีเลือดหมุนเวียนสมบูรณ์ แม้กระทั่งกล้ามเนื้อก็ได้ยึดติดกับข้อเท่าและข้อต่อต่างๆ ในอุ้งเท่าเป็นอย่างดี

สำหรับคนที่สูญเสียขาไป การปลูกถ่ายอวัยวะคือความหวังเดียวของพวกเขาที่จะได้ขากลับคืนมา แต่นั่นหมายถึงพวกเขาต้องได้รับยาระงับภูมิคุ้มกัน เพื่อกันไม่ให้ร่างกายของเขาต่อต้านอวัยวะใหม่ นั่นคือเหตุผลที่นักวิจัยทั้งหลาย ต่างมุ่งเป้าไปที่การปลูกถ่ายอวัยวะจากสเต็มเซลล์ของผู้ป่วย แต่สิ่งที่ขาดหายไปก็คือโครงสร้างค้ำจุนเนื้อเยื่อเพื่อรองรับการเจริญเติบโตของเนื้อเยื่อ และทำให้เนื้อเยื่อมีรูปร่างตามที่เราต้องการ

ดั้งนั้น ทีมวิจัยซึ่งนำโดย Harald Ott แพทย์ประจำโรงพยาบาล Massachusetts General ได้ตัดเนื้อเยื่อขาหน้าของหนูทดลองออกไป จากนั้นจึงแทนที่ส่วนที่หายไปด้วยเซลล์ต้นกำเนิด เทคนิคนี้เรียกว่าการ Decellularization เคยถูกนำมาใช้ก่อนหน้านี้ในการสร้างอวัยวะ Bioartificial ขึ้นมา เช่น ตับ ไต หัวใจ และปอดในสัตว์ แต่ว่าการสร้างขาหนูขึ้นมานี้ เป็นการสร้างที่แตกต่างออกไป

“โครงสร้างตามธรรมชาติของขามนุษย์เราที่ซับซ้อน คือสิ่งที่ท้าทายอย่างยิ่งในการจะสร้างขาใหม่ขึ้นมา” Ott อธิบายในข่าว “ขานั้นประกอบไปด้วย กล้ามเนื้อ กระดูก กระดูกอ่อน หลอดเลือด เส้นเอ็น เอ็นขนาดใหญ่ และเส้นประสาท ในการจะสร้างแต่ละอย่างที่กล่าวมานั้น ต้องอาศัยโครงสร้างค้ำจุนเฉพาะ ที่เรียกว่า The Matrix”

พวกเขาได้ใช้น้ำยาในการทำให้เซลล์หลุดออกจากขาหน้าของหนูที่ตายแล้ว เพื่อพวกเขาจะแน่ใจได้ว่าเส้นเลือดหลักและโครงข่ายเส้นประสาทจะยังคงอยู่ พวกเขาใช้เวลาเป็นสัปดาห์ในการนำเซลล์ออกจากขาของหนู ในขณะที่เส้นเลือดและเซลล์ต้นกำเนิดยังคงอยู่ เมื่อเซลล์ทั้งหลายหมดไปจากขาหน้าของหนูแล้ว พวกเขาแขวนมันไว้ในเครื่องปฎิกรณ์ชีวภาพ (Bioreactor) โดยเครื่องนี้จะคอยให้สารอาหารและใช้ไฟฟ้ากระตุ้น เพื่อส่งเสริมการเจริญเติบโตของเนื้อเยื่อ (ดังภาพข้างล่าง)

 

เซลล์เส้นเลือดถูกฉีดเข้าไปในเส้นเลือดใหญ่เพื่อสร้างเส้นเลือดดำและเส้นเลือดแดง ในขณะที่เซลล์กล้ามเนื้อถูกฉีดเขาไปโดยตรงในเมทริกซ์เพื่อให้กล้ามเนื้อมีรูปร่างตามที่กำหนด (ดังรูปด้านล่าง) 2 ถึง 3 สัปดาห์ต่อมา เมื่อขาของหนูถูกทำนอกจากเครื่องแฏิกรณ์ชีวภาพ พวกเขาสังเกตเห็นว่าเซลล์หลอดเลือด และเซลล์กล้ามเนื้อถูกสร้างขึ้นมาตามเมทริกซ์ที่กำหนดไว้

เพื่อพิสูจน์ว่าขาใหม่นั้นใช้การได้ พวกเข้าได้ใช้ไฟฟ้ากระตุ้มกล้ามเนื้อ เพื่อให้มันหดตัวและพบว่ามันมีความแข็งแรง 80% เมื่อเทียบกับหนูแรกเกิด หลังจากขานี้ถูกปลูกถ่ายไปยังหนูผู้รับแล้ว เลือกจะถูกเติมเข้าไปในระบบเลือดเพื่อหมุนเวียน เมื่อทดลองทำการกระตุ้นเล็กน้อย พบว่ากล้ามเนื้อส่วนที่ปลูกถ่ายขึ้นใหม่นั้นมีการหดเกร็งเหมือนกล้ามเนื้อปกติ ทั้งในส่วนของข้อเท้าและนิ้วเท้า

คลิปด้านล่างนี้แสดงการเจริญเติบโตแบบ Time Lapse ของเซลล์เนื้อเยื่อในขาหนู

อ้างอิง :
– Researchers Grow Rat Forelimb in the Lab
– MGH team develops transplantable bioengineered forelimb in an animal model

มาดูสัตว์ทะเลที่เพิ่งถูกค้นพบนอกชายฝั่งเปอร์โตริโกกัน

บทความโดย Morenike Adebayo เมื่อ 29 พ.ค. 2015
จาก : iflscience.com
แปลและเรียบเรียงโดย : Dark Scientist


จากการสำรวจทะเล Puerto Rican ที่ความลึกจนแสงอาทิตย์ส่องไม่ถึง โดยนักวิทยาศาสตร์จากทั่วโลก พวกเขาได้เจอกับสัตว์ทะเลมากมายที่ยังไม่ถูกค้นพบมาก่อน

นักวิทยาศาสตร์ได้ถ่ายวิดีโอพวกมันไว้ (คลิปด้านล่าง) และถ่ายทอดสดออนไลน์ โดยนำกล้องไปติดกับโดรนดำน้ำที่ควบคุมด้วยรีโมตคอนโทรลอีกที เพื่อการดำน้ำลงไปในส่วนที่ลึกกว่าคนทั่วไปจะดำลงไปได้

พวกเขายังมีห้องแชทบทอินเทอร์เน็ตเพื่อถามตอบพูดคุยเกี่ยวกับการสำรวจนี้ พร้อมกับผู้เชี่ยวชาญด้านธรณีวิทยาทางทะเล สมุทรศาสตร์ และอนุกรมวิธาน

“พวกเราสามารถเชื่อมต่อกับนักวิทยาศาสตร์ได้ถึง 40 คนต่อวัน” Andrea Quattrini กล่าว

มาดูสัตว์ทะเลสีสันสดใสเหล่านี้จากคลิปวิดีโอนี้เลยครับ (คลิปวิดีโอโดย Quartz)

URL อ้างอิง : Newly Discovered, Unnamed Deep Sea Creatures Found Off The Coast Of Puerto Rico

มารู้จักกับเจ้ากบหน้าหงุดหงิดกันเถอะ

บทความโดย : Lindsey Robertson เมื่อ 11 ก.ย. 2014
จาก : thedodo.com
แปลและเรียบเรียงโดย : Dark Scientist


จากที่เห็นหน้าตาของมันดูหงุดหงิดเอาการ แต่จริงๆ แล้วมันไม่ได้ดุอะไรขนาดนั้น เจ้ากบตัวนี้มีชื่อว่า “Black Rain Frog” เจ้าสัตว์ครึ่งบกครึ่งน้ำที่มีใบหน้าหงุดหงิดนี้ มีปุ่มที่น่าเกลียดน่ากลัวอยู่รอบๆ ตัวมัน ดูจากสีหน้าแล้วมันคงไม่ชอบผิวตัวเองสักเท่าไหร่

เจ้า Black Rain Frog นี้คือสัตว์ครึ่งบกครึ่งน้ำที่อาศัยอยู่ในหลุมหรือโพรง มีถิ่นกำเนิดและอยู่อาศัยที่ชายฝั่งทางตอนใต้ของแอฟริกา มันมีกลิ่นตัวที่ค่อนข้างเหม็น เจ้ากบชนิดนี้มักจะขุดหลุมเพื่ออยู่อาศัย ลึกประมาณ 150 มิลลิเมตร

เห็นหน้าบึ้งอย่างนี้จริงๆ แล้วเจ้ากบชนิดนี้มันเป็นกบที่รักเดียวใจเดียวมาก เพราะมันค่อนข้างเอาใจใส่คู่รักของมัน และตัวเมียนั้นจะมีสารประกอบลึกลับที่มีความเหนียวหนึบออกมาจากหลังของมัน สารเหนียวหนึบนั่นทำให้ตัวผู้ไม่ลื่นไถลลงมาในขณะที่พวกมันกำลังปั่มปั๊มกันอยู่นั่นเอง

ในขณะที่ยังอยู่ในฤดูผสมพันธุ์ เจ้ากบ Black Rain Frog ตัวผู้ จะอยู่แต่ในหลุมของมันเพื่อรักษาไข่ที่ตัวเมียวางไว้ และส่งลูกอ๊อดออกมาสู่โลกภายนอก

เจ้ากบชนิดนี้มีกลไกการป้องกันตัวที่วิเศษสุดๆ ไปเลย ในกรณีที่พวกมันถูกโจมดี เมื่อบางคนกำลังกลัวมันและกำลังจะจับมันไปทิ้ง มันจะพองตัวออกด้วยอากาศ เพื่อที่จะทำให้มันตุ้ยนุ้ยมากขึ้นและดูน่าเกรงขาม ในบางครั้งมันทำแบบนี้ขณะอยู่ในหลุม จึงเป็นการยากที่จะจับมันออกมาจากหลุมของมัน ฉะนั้นจุดจบของมันจึงเหมือนกับลูกโป่งติดหลุม

เป็นการยากที่จะไปทำให้มันยิ้ม แต่นั่นแหละคือความน่ารักของมันเลยล่ะ เจ้ากบ Black Rain Frog นั้นพิสูจน์ให้เห็นว่ามีสัตว์อีกตั้งมากมายที่เรายังไม่เคยเห็นกับตาตัวเอง

URL อ้างอิง : Meet The World’s Grumpiest Frog

ความลับที่อยู่ลึกเข้าไปในรังผึ้ง นี่อาจเป็นครั้งแรกที่คุณเห็นตัวอ่อนของผึ้งออกจากไข่

บทความโดย : Morenike Adebayo เมื่อ 22 ส.ค. 2558
จาก : iflscience.com
แปลและเรียบเรียงโดย : กิตติศักดิ์ โชครวย


คุณเคยเห็นผึ้งขณะที่มันยังเป็นตัวอ่อนอยู่รึเปล่า ส่วนใหญ่ไม่เคยเห็นแน่นอน เพราะมันถูกดูแลและรักษาอย่างมิดชิดในส่วนที่ลึกเข้าไปของรังผึ้ง เหล่าผึ้งได้ใช้รังของมันเก็บเกสรดอกไม้ น้ำหวาน รวมไปถึงไข่ ตัวอ่อน และดักแต้ และช่างภาพ Anand Varma ได้สนใจเกี่ยวกับชีวิตของผึ้งในส่วนที่ลึกเข้าไปของรังผึ้ง ที่เรามักไม่พบเห็นได้ทั่วๆ ไป เขาพยายามสร้างรังผึ้งขนาดมินิขึ้นมาในห้องทดลองกลางแจ้งของเขา เพื่อศึกษาความลับของชีวิตผึ้งที่พวกเราไม่เคยได้รู้

และวิดีโอไทม์แลปส์อันน่าทึ่งนี้ได้ถูกจัดทำขึ้นมาเพื่อ National Geographic โดยเฉพาะ แสดงให้เห็นถึงการเจริญเติบโตของตัวอ่อน จนกระทั่งกลายเป็นตัวเต็มวัย

มินิโปรเจคของ Varma ไม่ได้ทำได้ง่ายๆ เลย โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับคนที่เพิ่งหัดเลี้ยงผึ้งเช่นนี้ โดยครั้งแรกที่ทำเขาพยายามสร้างรังผึ้งขึ้นมาถึงสองสามครั้ง โดยครั้งแรกเขาได้จัดแจงถ่ายวิดีโอในส่วนของการกินอาหารของตัวอ่อนก่อน แต่มันไม่สามารถทำสำเร็จได้ในครั้งแรกครั้งเดียว เขาพยายามแล้วพยายามอีก จนในที่สุดเวลาผ่านไป 6 เดือน เขาจึงสามารถปรับอุณภูมิและความชื้นให้เหมาะสมกับพวกผึ้งได้

“ครั้งแรกที่ผมทำงานนี้ ผมชอบมันมาก ‘โอ้พระเจ้า นี่มันเจ๋งสุดๆ ไปเลย ผมสามารถถ่ายทุกขั้นตอนของพวกมันได้’” Varma กล่าวขณะถ่ายทำรายการ National Geographic.

โดยธรรมชาติแล้ว นางพญาผึ้งจะวางไข่ 1 ใบต่อ 1 หลอดของรังฟักตัวอ่อน และไข่จะถูกยึดติดกับรังด้วยน้ำเมือก หลักจากนั้น 3 วัน ระบบย่อยอาหาร ระบบประสาท และส่วนห่อหุ้มร่างกายจะถูกสร้างขึ้น และหลังจากนั้น 3 วันไข่ก็จะฟักออกมาเป็นตัวอ่อน จากนั้นผึ้งงานก็จะเข้ามาให้อาหารพวกมัน โดยอาหารที่ผึ้งให้ตัวอ่อนกินได้แก่น้ำผึ้งและนมผึ้ง ในระยะนี้ตัวอ่อนจะมีลักษณะคล้ายเมล็ดข้าว มีปากที่เล็กจิ๋ว ก่อนที่จะมีหนวดงอกออกมา ตามมาด้วยตา ขา และปีก และพวกมันจะได้รับอาหารอันทรงคุณค่านี้จนกระทั่งพวกมันกลายเป็นผึ้งงานตัวเต็มวัย ผึ้งตัวผู้หรือผึ้งโดรน และถ้าตัวไหนโชคดีมันอาจจะได้เป็นนางพญาตัวต่อไป

ที่มา : Watch This Fascinating Time-Lapse Of Hatching Bees

เมื่อคุณรู้จักกับหนอนตัวนี้แล้ว ท้องทะเลในฝันของคุณจะเปลี่ยนไป

บทความโดย : Stephen Luntz เมื่อ 18 ส.ค. 2557
จาก : iflscience.com
แปลและเรียบเรียงโดย : กิตติศักดิ์ โชครวย


Bobbit worm
photo credit: DreamOfShadows http://bit.ly/1ldzPUx

นี่ดูเหมือนกับว่ามันหลุดออกมาจากหนังไซไฟ แต่สำหรับปลาในทะเลแล้ว Eunice aphroditois (ชื่อวิทยาศาสตร์) คือเรื่องจริงที่พวกมันต้องเจอ เจ้าสัตว์ประหลาดนี้มีชื่อเล่นว่า Bobbit worm มันมีอาวุธและวิธีมากมายที่จะใช้ฆ่าเหยื่อของมัน นั่นรวมไปถึงเขี้ยวของมันที่จะตัดเหยื่อขาดเป็นสองท่อน หรือแม้กระทั่งพ่นพิษใส่เหยื่อเพื่อที่จะได้กินง่ายๆ พวกมันสามารถพบได้ทั่วไปในเขตน้ำอุ่น ที่ความลึกราวๆ 150 เมตร และยังพบได้ทั่วโลกอีกด้วย

ในกรณีนี้คุณอาจจะคิดว่า “มันคงเป็นอะไรที่น่ากลัว แต่แค่สำหรับพวกปลาน่ะ ฉันคงไม่ต้องกังวลอะไรกับมันหรอก” แต่คุณทราบไหมว่าเจ้าสัตว์ประหลาดนี้สามารถเจริญเติบโตจนมีความยาวได้ถึง 3 เมตร เลยนะ ยาวพอที่จะจับเหยื่อที่มีขนาดใหญ่กว่าพวกมัน นอกจากส่วนหัวของมันที่เราเห็นขณะมันโจมตีเหยื่อ ส่วนที่เหลือของมันจะอยู่ใต้ผิวทรายลงไปนิดเดียว เพื่ออำพรางและเป็นเรดาร์ให้มันรับรู้เวลามีเหยื่อเข้ามาใกล้ เพราะการพรางตัวแบบนี้นี่เองจึงสร้างปริศนาให้อความเรียมบางแห่งที่ว่าปลาหายไปโดยไม่รู้สาเหตุ เคยมีกรณีที่ว่าอควาเรียมบางแห่งที่อยู่ๆ ปลาเล็กปลาน้อยก็หายไปอย่างไม่มีสาเหตุ จนเจ้าหน้าที่ตัดสินใจล้างตู้ปลาแล้วก็ได้พบกับเจ้าหนอนบ๊อบบิทนอนอิ่มอยู่ใต้ผืนทรายนั่นเอง โดยตัวที่เจ้าหน้าที่ไปพบเข้านั้นมีความยาวถึง 150 ฟุต หรือประมาณ 5 เมตรเลยทีเดียว !!!

Photo: BPM MEDIA
Photo: BPM MEDIA

(นี่ก็คือภาพเจ้าหนอนบ๊อบบิท ที่เจ้าหน้าที่พบในอควาเรียม)

ในคลิปด้านล่างนี้แสดงให้เห็นถึงตอนที่มันกำลังดักรอจับเหยื่อ และเขมือบเหยื่อของมัน

เคยเห็นกองทรายรูปร่างประหลาดเหล่านี้ไหม แท้จริงแล้วมันคือฝีมือของปลาปักเป้า

บทความโดย : Lisa Raffensperger เมื่อ 15 ส.ค. 2556
จาก : Discovermagazine.com
แปลและเรียบเรียงโดย : กิตติศักดิ์ โชครวย


     มันถูกเรียกว่าครอปเซอร์เคิลแห่งท้องทะเล มีความยาวเส้นผ่านศูนย์กลางถึง 7 ฟุต รูปแบบเซอร์เคิลดังกล่าวถูกค้นพบตั้งแต่ปี 1995 ที่ชายฝั่งทางตอนใต้ของประเทศญี่ปุ่น แต่การค้นพบครั้งแรกได้สร้างปริศนาและความฮือฮาเป็นอย่างมาก นักดำน้ำท้องถิ่นเรียกมันว่าวงกลมลึกลับ

crop-circle

     และมันยังคงเป็นปริศนามาจนถึงปี 2011 จึงพบเจอกับที่มาของวงกลมนี้เมื่อมีคนพบเห็นปลาปักเป้าตัวผู้ที่มีขนาดเพียง 5 นิ้ว กำลังสร้างวงกลมปริศนา และล่าสุดนักวิทยาศาสตร์ได้ทำการศึกษาถึงกระบวนการการออกแบบและสร้างสรรค์ประติมากรรมชั้นเลิศนี้ และพบว่าพวกมันสร้างขึ้นมาเพื่อล่อตัวเมีย

    นักวิทยาศาสตร์เรียกมันว่า “Finned Digger” (หรือนักขุดโดยใช้ครีบ)

     ทีมนักวิจัยได้สำรวจวงกลมที่ถูกสร้างขึ้นมา 10 หลุม มันถูกสร้างจากปลาปักเป้าตัวผู้ โดยปลาปักเป้าตัวผู้แต่ละตัวจะใช้เวลา 7 ถึง 9 วัน ในการสร้างวงกลมอันสวยงามนี้ พวกมันแต่ละตัวว่ายน้ำไปมา เข้าออก เข้าออก ภายในวงกลม ทำซ้ำๆ อย่างนี้ และใช้ครีบกระพือน้ำเพื่อขุดทรายขึ้นมา จนเกิดเป็นร่องและออกมาเป็นครอปเซอร์เคิลที่สวยงาม ดังที่เห็นในวิดีโอข้างล่างนี้

     พวกมันใส่ใจในความสวยงามของวงกลมอย่างมาก มันถูกสร้างขึ้นมาอย่างพิถีพิถัน เพราะนักสำรวจพบว่ามันไม่เพียงแต่สร้างวงกลมปริศนาขึ้นมาเท่านั้น พวกมันยังตกแต่งสันทรายรอบๆ วงกลมนั้น ด้วยเปลือกหอยและชิ้นส่วนประการัง และยังพบสาเหตุที่วงกลมออกมาเป็นรูปแบบเช่นนี้ เพราะตัวผู้นั้นจะทำการกวนน้ำให้ขุ่นรอบๆ วงกลมนั้น และรอให้ทรายหยาบตกตะกอนลงไปก่อน จากนั้นมันจะพัดเอาทราบละเอียดเข้าไปไว้ตรงกลางของวงกลม เพื่อสร้างเป็นรังของมันนั้นเอง

     วงกลมนี้มีส่วนสำคัญมากในการสร้างความบันเทิงเริงใจให้กับปลาปักเป้ตัวเมีย เมื่อตัวผู้เห็นว่าตัวเมียกำลังเข้ามาในเขตของมัน มันจะพัดทรายที่ตรงกลางของวงกลมให้ฟุ้งขึ้นมา และไปหลบอยู่ข้างหลัง จากนั้นมันจะกระโจนออกมาจากฝุ่นทรายอย่างรวดเร็ว เพื่อโชว์ให้ตัวเมียเห็นว่ารังนี้ทรายละเอียดและนุ่มมาก และเมื่อตัวเมียตัดสินใจแล้วว่านี่คือคู่ที่เหมาะสมของมัน มันจะเข้าไปวางไข่ที่ตรงกลางของวงกลม นักวิจัยรายงานเช่นนั้น

ลิ้งค์ต้นฉบับ : The Mystery of Underwater Crop Circles, Explained